• Sun. Mar 26th, 2023

แนะนำหนังซีรีย์ยอดฮิต 2020

มาตามดูให้จบ ครบทุกเรื่อง ก่อนมูฟออนไปสู่กองทัพซีรีส์เกาหลีอีกมากมายที่กำลังจะตามมา ติดตาม 'โพย Netflix' ตอนใหม่และตอนอื่นๆอีกมากมาย ได้ที่นี่

แล่ 4 ประเด็นร้อน แมนยูฯ ปราบ ลิเวอร์พูล ฉลุยเอฟเอคัพ

ByAntone

Jan 27, 2021

“ซาตานแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านเอาชนะ “ลิเวอร์พูล” หงส์แดง ไปแบบสุดมัน เข้ารอบ 5 เอฟเอคัพได้สำเร็จ แล้วก็นี่คือ 4 เรื่องสำคัญที่ได้เห็นจากเกมนี้

1.รูปเกมแลกกันเดือด ใครพลาดโดน

แมนยูฯ ออกสตาร์ตเกมนี้ได้ค่อนข้างจะดีเลยทีเดียว ได้ลุ้นก่อนถึง 2 จังหวะจากการยิงของ เมสัน กรีนวูด หนแรกยิงไปติดเซฟ อลิสสัน ครั้งที่สองหลุดเสาแรก จริงๆจังหวะแรกถ้าหากจ่ายให้ ฟาน เดอ เบค ที่วิ่งเพิ่มขึ้นมาก็บางทีก็อาจจะได้ประตูไปแล้ว แล้วต่อจากนั้นนาทีที่ 18 กลายเป็น หงส์แดง ที่ออกนำก่อน 1-0 แบบง่ายๆเลย เมื่อ โรกางร์โต เฟอร์มิโน ส่งบอลทะลุไปให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ หลุดเข้าจุดโทษก่อนชิพบอลผ่านตัว ดีน เฮนเดอร์สัน เข้าไป ถ้าว่านาทีที่ 26 แมนยูฯ ตีเสมอ 1-1 เมื่อ มาร์คัส แรชฟอร์ด เปิดบอลยาวจากฝั่งซ้ายไปฝั่งขวาให้ เมสัน กรีนวูด หลุดไปยิงตุงตาข่าย แล้วต่อจากนั้นแมนยูฯ ครองเกมไว้ได้หมดก่อนจะจบครึ่งแรกด้วยสกอร์ 1-1 ต่อกันที่ช่วงหลัง เริ่มมาแค่ 3 นาที แมนยูฯ ขึ้นนำ 2-1 เมื่อ เมสัน กรีนวูด ส่งบอลขึ้นมาด้านซ้าย รีส วิลเลียมส์ แนวรับดาวรุ่งลิเวอร์พูลสกัดบอลวืด เลยมาถึง แรชฟอร์ด หลุดเข้าไปยิงตุงตาข่าย เกมเปิดแลกกันเดือด นาทีที่ 58 หงส์แดง ตีเสมอ 2-2 จากจังหวะที่ เจมส์ มิลเนอร์ ตัดบอลได้ในแดนของยูไนเต็ดก่อนจ่ายแม้กระทั่ง เฟอร์มิโน ผ่านบอลเข้ากึ่งกลาง มิลเนอร์ ผ่านหลอกให้ ซาลาห์ ยิงเข้าไป เพียงพอตีเสมอได้สำเร็จ หงส์แดง ฝ่าใส่อย่างมากเพื่อหวังเอาประตูเพิ่ม แต่การยิงของ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์อาร์โนลด์ กับ ซาลาห์ โดน ดีน เฮนเดอร์สัน เซฟไว้ได้ทั้งหมดทั้งปวง จนกระทั่งนาทีที่ 77 แมนยูฯ มาได้ฟรีคิกหน้าจุดโทษ แล้วก็เป็น บรูโน เฟอร์นันเดส ปั่นเข้าไปตุงตาข่าย พาซาตานแดงคว้าชัย 3-2 ไปในที่สุด ซื้อตั๋วเข้ารอบ 16 กลุ่มได้สำเร็จ ไปพบกับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด

liver

2.ฟาน เดอ เบค-แม็คโทมิเนย์ ทำได้ไม่ดีเพียงพอ

เกมนี้ ดอนนี ฟาน เดอ เบค ได้ออกสตาร์ตเป็นตัวจริง มองไปดูมาเสมือนจะดีเพราะเหตุว่ามีจังหวะเล่นบอลจังหวะเดียวแบบงามๆให้เห็น จนถึงช่วยทำให้กลุ่มมีลุ้นทำคะแนน แต่เพียงพอเล่นไปเรื่อยๆดันเบาๆหายไปจากเกมแล้วก็บทบาทค่อนข้างจะน้อย แล้วก็เป็น บรูโน เฟอร์นันเดส ที่ลงมาแทนที่เขาแล้วก็เป็นคนซัดฟรีคิกเป็นประตูชัยให้ซาตานแดงในเกมนี้ บางเวลา ฟาน เดอ เบค อาจจะต้องใช้เวลาสำหรับเพื่อการปรับตัวให้เข้ากับระบบการเล่นของกลุ่มอีกสักระยะ แต่ โอเล กุนทุ่งนาร์ โซลชารื ทำถูกแล้วที่ให้โอกาาสเขาได้ลงสัมผัสเกมสำคัญๆอย่างนี้ เพื่อที่จะทำให้ตัวนักเตะมีความมั่นใจและความเชื่อมั่นที่จะต้อสู่สำหรับเพื่อการแย่งเก้าอี้ในกลุ่มถัดไป ส่วน สกอตต์ แม็คโทมิเนยื วันนี้มองเฉือยแปลกๆเข้าบอลช้าหนึ่งจังหวะตลอด ยิงจังหวะเสียประตูแรกเขาปลดปล่อยให้ เฟอร์มิโน ได้ส่งบอลให้ ซาลาห์ หลุดไปยิงง่ายๆไม่พากเพียรจะเข้าไปบีบแย่งบอลอะไร แต่ น้องแม็ค ก็ยังเป็นนักเตะคนสำคัญของกลุ่มเพราะเหตุว่าฤดูนี้มันมีนัดที่เขาเล่นดีมากกว่าเล่นห่วยนั่นเอง

3.ชอว์, แรชฟอร์ด, กรีนวูด, บรูโน สุดปัง

นัดนี้ถ้าหากไม่นับจังหวะปลดปล่อยให้ ซาลาห์ วิ่งแซงไปยิงขึ้นนำ 1-0 นับว่า ลุค ชอว์ สะดุดตามากๆโดยเฉพาะการวิ่งขึ้นวิ่งลงแบบไม่มีหมด เพิ่มเกมรุกได้อย่างดุเดือดจนได้ขึ้นมาเปิดบอลหลายที เล่นอย่างนี้น่าจะทำให้ อเล็กซ์ เตลเลส ยากมากที่จะเบียดขึ้นมาแย่งตัวจริงได้ แต่นี่เป็นสิ่งที่ทำให้เห็นได้ว่า การที่ยูไนเต็ดดึง เตลเลส เข้ามา นั้นทำให้ ลุค ชอว์ ยกระดับฝีเท้าขึ้นมาอย่างชัดเจน เพราะเหตุว่ามีคนคอยลุ้นเบียดแย่งเก้าอี้นั่นเอง ส่วน แรชฟอร์ด บางวันดีบางวันห่วย แต่นัดนี้บอกเลยว่าชั่วร้ายสุดๆโดยเฉพาะจังหวะเปิดบอลให้ กรีนวูด หลุดไปยิงตีเสมอนั้นเป็นอะไรที่สุดยอดมากๆแล้วก็จังหวะที่เจ้าตัวได้หลุดไปยิงขึ้นนำ 2-1 ก็จบสกอร์ได้อย่างยอดเยี่ยม ระหว่างที่ กรีนวูด แม้ว่าจะพลาด 2 โอกาสทองในตอนต้นเกม แต่ก็มาแก้ตัวยิงตีเสมอ 1-1 ให้กลุ่ม แล้วก็ยังได้มา 1 แอสซิสต์จากการจ่ายให้ แรชฟอร์ด ยิง จะต้องยกนิ้วให้การประสานงานระหว่าง กรีนวูด แล้วก็ แรชฟอร์ด ที่เข้าขากันสุดๆส่วน บรูโน ไม่ต้องบอกเยอะแยะ ลงมาแล้วยกระดับกลุ่มได้ในทันที ก่อนจะซัดฟรีคิกปลิดวิญญาณพาทีมคว้าชัยไปในที่สุด

liver 2

4.แนวรับหงส์อาการหนัก-เกมรุกดีขึ้น

เรียกได้ว่าโดนงามมาแต่ละคราวรั่วกระจัดกระจาย สำหรับแนวรับของหงส์แดงที่เกมนี้จัด 4 คน จากซ้ายไปขวามี แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, ฟาบินโญ, รีส วิลเลียมส์ แล้วก็ เทรนต์ อเล็กซานดอร์ อาร์โนลด์ เริ่มกันที่จังหวะเสียประตูตีเสมอ 1-1 โดนโต้กลับเร็ว ไม่มีผู้ใดเข้าไปบีบบ มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่ได้เปิดบอลยาวจากฝั่งซ้ายไปขวาให้ เมสัน กรีนวูด หลุดไปยิงง่ายๆเรียกได้ว่าแผงหลังหลุดกันชูแผง ส่วนจังหวะโดนแซงนำ 2-1 รีส วิลเลียมส์ จะต้องรับผิดชอบไปผู้เดียวแบบเต็มๆเพราะเหตุว่าสกัดลูกเปิดของ เมสัน กรีนวูด วืด จนถึงทำให้บอลหลุดไปถึง แรชฟอร์ด ควบพาบอลเข้าไปยิงตุงตาข่าย
ส่วนจังหวะเสียประตูที่ 3 ฟาบินโญ จะต้องรับผิดชอบเพราะเหตุว่าดันไปทำฟาวล์ในระยะที่อันตราย จนถึงถูก บรูโน เฟอร์นันเดส ซัดฟรีคิกเข้าไป ส่วนเกมรุกของลิเวอร์พูล กลับมาเบิกบานใจอีกรอบโดยเฉพาะ โรกางร์โต เฟอร์มิโน กับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่ทำได้ดีเลิศๆเฟอร์มิโน จัดไป 2 แอสซิสต์แบบงามๆส่วน ซาลาห์ ก็เรียกความเฉียบคมกลับมาได้จาก 2 ประตูที่ทำได้ในเกมนี้